บางครั้ง บริษัท รถยนต์ได้รับการดําเนินการเล็กน้อยด้วยความคิดใหม่ที่ด้วยเหตุผลมากมายไม่ได้แปลได้ดีในการดําเนินการ โตโยต้า (และ บริษัท ญี่ปุ่นอื่น ๆ ) ทําสิ่งนี้เมื่อพวกเขาลงทุนในสายที่ไม่ประสบความสําเร็จมากของรถยนต์WiLLและผลิตภัณฑ์อุปโภคบริโภคอื่น ๆ ในช่วงต้นปี 2000
วันนี้เรามาดูตัวอย่างในประเทศปี 1980 ของความคิดที่ลดลงแบน มันเป็นช่วงเวลาที่คาดิลแลคคิดว่าการใช้ลิปสติกกับหมูรูปคาวาเลียร์จะทําให้ลูกค้า BMW และ Mercedes-Benz 190E มาเป็น’callin ได้เวลาซิมาร์รอน แล้วข้อต่อตัวเจ
Cadillac แบรนด์มาตรฐานของโลกของอเมริกามักจะขายรถยนต์ขนาดใหญ่และมีราคาแพงซึ่งอยู่ในจุดหนึ่งที่สร้างขึ้นตามมาตรฐานคุณภาพสูง และนั่นเป็นสิ่งที่ดีและดี แต่ในช่วงต้นยุคเจ็ดสิบสองประเด็นสําคัญกลายเป็นที่ชัดเจนสําหรับ General Motors: ภาพคุณภาพของ Cadillac กําลังจางหายไปและมีตลาดสําหรับรถหรูขนาดเล็กเล็กน้อย เล็กกว่าในขนาดกลาง
ดังนั้นในปี 1976 GM จึงมีความเสี่ยงและเพ้อฝันถึงไดรฟ์ด้านหลังและตัว X ขนาดกลางจากโนวาไปสู่เซบียา K-body ที่แตกต่างกันมาก (ไม่จริง) ขายเป็น “ขนาดสากล” ไม่ว่าสิ่งที่บ้าที่หมายถึงเซบียาเป็น svelte เบากว่าคาดิลแลคปกติ และมันก็ประสบความสําเร็จในการขาย แต่มันไม่ได้เปลี่ยนภาพลักษณ์ของผู้ซื้อที่หรูหราในอเมริกาเหนือของคาดิลแลค “เราต้องทํามากขึ้นเล็งให้ต่ําลง”คนที่คาดิลแลคกล่าวว่า
และตั้งเป้าหมายให้ต่ําลงเช่นเดียวกับในปี 1980 ทองเหลืองที่ GM ลงนามใน Cadillac ที่เล็กที่สุดเท่าที่เคยมีมาขนาดกะทัดรัดที่จะอยู่บนพื้นฐานของแพลตฟอร์ม J-body ใหม่ที่กําลังพัฒนาอยู่ในขณะนี้ รถคันใหม่นี้เป็นผลมาจากการวิจัยการตลาดบางอย่างเกี่ยวกับผู้ซื้อ Cadillac ผลการวิจัยแจ้งผู้บริหารของ GM ว่าลูกค้า Cadillacไม่ได้ย้ายจากแบรนด์ยุโรปไปยังเซบียาเพราะเป็นที่ต้องการอย่างไม่น่าเชื่อ ค่อนข้างแสดงให้เห็นว่าลูกค้าเซบียามักจะเป็นผู้ซื้อแบรนด์ในประเทศที่ภักดีที่ต้องการรถซีดานขนาดเล็ก “การจับคู่ยุโรป” กับเซบียาไม่ได้ผล
ในการตอบสนองข้อเสนอ Cadillac ใหม่ทั้งหมดนี้จะแข่งขันโดยตรงกับรถซีดานกีฬายุโรปขนาดกะทัดรัด (และพรีเมี่ยม) ที่นําเสนอโดยเยอรมนีโดยเฉพาะ 3-Series และ Mercedes 190E เล็กลง หรูขึ้น ขับหน้าได้มากขึ้น เหมือน BMW ใช่ไหม? ตัวแทนจําหน่ายอยู่ในความโปรดปรานของรถขนาดเล็ก แต่ไม่ทราบว่าสิ่งที่พวกเขาจะได้รับ
งานเริ่มต้นในปี 1980 สองปีก่อนการเปิดตัวของ J-body ในอเมริกาเหนือ นั่นไม่ใช่เวลามาก (พอ) สําหรับพฤติกรรมที่เคลื่อนไหวช้าซึ่งเป็นเจเนอรัลมอเตอร์และ Cimarron มีหนึ่งในเวลาการพัฒนาที่สั้นที่สุดที่ GM เคยพยายาม Cadillac ที่จะสิ้นสุด Cavaliers ทั้งหมดควรจะเปิดตัว circa 1985 ให้เวลา GM ในการทํางานออกหงิกงอผลิตภัณฑ์ของแพลตฟอร์มใหม่ (ความคิดที่ดีกล่าวว่าฉัน) แต่ผู้บริหารก็กระตือรือร้นและผลักดันไทม์ไลน์ให้ถึงรุ่นปี ’82 ปล่อยกับส่วนที่เหลือของรถ J-body
แผนการเร่งด่วนไม่ได้ไปได้ดีกับประธาน GM พีทเอสเตส (รับผิดชอบ 1974 ถึง 1981) แต่เดิมเป็นวิศวกรที่ Oldsmobile และชายผู้คิดชื่อ Camaro, Estes เห็นไวนิลคุณภาพสูงถูกพาดผ่านคาวาเลียร์และประท้วง
“คุณไม่มีเวลาเปลี่ยนรถ J เป็นคาดิลแลค” คริกเก็ตจากการจัดการคาดิลแลค
แผนการเร่งด่วนไม่ได้ไปได้ดีกับประธาน GM พีทเอสเตส (รับผิดชอบ 1974 ถึง 1981) แต่เดิมเป็นวิศวกรที่ Oldsmobile และชายผู้คิดชื่อ Camaro, Estes เห็นไวนิลคุณภาพสูงถูกพาดผ่านคาวาเลียร์และประท้วง
“คุณไม่มีเวลาเปลี่ยนรถ J เป็นคาดิลแลค” คริกเก็ตจากการจัดการคาดิลแลค
ระหว่างทางมีแพ็คเกจตัดแต่งที่โดดเด่นหนึ่งแพ็คเกจD’Oroเปิดตัวในปี 1984 แปลโดยตรงจากภาษาอิตาลีและสเปนเป็น “สีทอง” D’Oro ได้รับการออกแบบมาสําหรับลูกค้าที่ชื่นชอบการตัดแต่งสีทองป้ายล้อตะแกรงแถบกันชนและแถบเทป D’Oro ถูกฝังผ่านแผ่นโลหะบนฝากล่องถุงมือที่บอบบางควบคู่ไปกับ Cimarron และมีสีเพิ่มเติมที่เข้ากันได้ด้านล่างหุ้มไม่พบใน Cimarron มาตรฐาน ในปี 84 แพคเกจมีเฉพาะกับภายนอกสีดําและหนังสีแทน แต่ในปี 85 ตัดขยายเป็นสีขาวและสีแดงภายนอก D’Oro ยังคงอยู่ในความพร้อมจนถึงปี 1986
GM ยังคงมี fiddling เล็กน้อยกับการตัดแต่งด้านหน้าและด้านหลังเพื่อให้ดูแตกต่างจากพี่น้อง Cavalier เล็กน้อย ไฟท้ายแบบพันรอบปรากฏในปี 86 พร้อมกับไฟหน้าคอมโพสิตที่ดูดีกว่ามากเพื่อแทนที่ชุดคาวาเลียร์คานที่ปิดสนิท ซิมาร์รอนส่วนใหญ่ถูกหัวเราะออกจากห้องโดยสื่อมวลชนยานยนต์และถูกต้องดังนั้น
อย่างไรก็ตามแม้ว่ายอดขาย 132,499 จะไม่น่าประทับใจอย่างที่คาดหวัง แต่ผู้ซื้อ Cimarron จํานวนมากยังใหม่กับแบรนด์ Cadillac และอายุน้อยกว่าลูกค้าทั่วไป คาดิลแลคทองเหลืองถือว่าเป็นซิมาร์รอนรุ่นใหม่ในอดีตปี 1988 แต่กลับปิดผนึกชะตากรรมและส่งกองทุนพัฒนาเหล่านั้นเพื่อปรับปรุง Eldorado และ Seville สําหรับปี 88 และฟลีตวูดและเดวิลที่ขับเคลื่อนด้านหน้าในปี 89 เป็นการตัดสินใจที่ดี Cimarron เป็นหนึ่งในรถยนต์ J-body รุ่นแรกที่วางจําหน่ายเช่นเดียวกับปี 88 Cavalier และ บริษัท เข้าสู่รุ่นที่สองของพวกเขา
ในที่สุดซิมาร์รอนก็เดินทางไปยังรายชื่อรถที่แย่ที่สุดเท่าที่เคยมีมาที่นี่และที่นั่น ส่วนใหญ่ถือว่าเป็นตัวอย่างที่เลวร้ายที่สุดของวิศวกรรมป้ายในประวัติศาสตร์สมัยใหม่เนื่องจากเป็นตัวแทนของการเหยียดหยาม Cavalier ในราคาเกือบสองเท่า จนถึงตอนนี้คาดิลแลคได้จําบทเรียนประวัติศาสตร์ที่ถูกทอดทิ้งของ Cimarron และไม่ได้ทําซ้ําข้อผิดพลาด
